โบท็อกซ์คืออะไร
โบท็อก (Botox) เป็นชื่อทางการค้าของสารที่เรียกว่า Botulinum Toxin Type A ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่สกัดจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum โดยสารนี้มีฤทธิ์ในการยับยั้งการทำงานของเส้นประสาทกล้ามเนื้อ จึงช่วยลดริ้วรอยได้ด้วยการทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัว ซึ่งจะลดรอยเหี่ยวย่น ริ้วรอยบนใบหน้า รวมถึงช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
การทำงานของโบท็อก
เมื่อฉีดโบท็อกเข้าไปที่กล้ามเนื้อบริเวณที่ต้องการลดริ้วรอยหรือปรับรูปหน้า ด้วยสาร Botulinum Toxin จะยับยั้งการปล่อยสารสื่อประสาท (Acetylcholine) ที่ทำให้กล้ามเนื้อหดตัว ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นคลายตัวและไม่หดตัวชั่วคราว โดยใช้เวลาในการออกฤทธิ์ประมาณ 3-7 วัน หลังจากฉีดไป และผลลัพธ์เต็มที่จะเห็นชัดเจนประมาณ 2 สัปดาห์ หลังฉีดส่งผลให้ริ้วรอยดูลดลงและผิวเรียบเนียนขึ้น
ระยะเวลาในการเห็นผลและความคงทน
-
ระยะเวลาเริ่มเห็นผล: ประมาณ 3-7 วัน หลังฉีด
-
เห็นผลลัพธ์เต็มที่: ประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีด
-
ระยะเวลาคงอยู่: ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อก ปริมาณที่ฉีด และปัจจัยเฉพาะบุคคล เช่น อายุ สภาพผิว การดูแลตัวเอง และความถี่ในการฉีด
หลังจากระยะเวลาประมาณ 3-6 เดือน กล้ามเนื้อจะค่อย ๆ คืนสภาพและเริ่มกลับมาทำงานตามปกติ การรักษาอย่างต่อเนื่องโดยการฉีดซ้ำจะช่วยคงผลลัพธ์ไว้ แต่ควรปรึกษาแพทย์ถึงระยะเวลาที่เหมาะสมในการฉีดแต่ละครั้ง
โบท็อกช่วยเรื่องอะไรบ้าง
-
ลดริ้วรอย : ช่วยลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก รอบดวงตา และหว่างคิ้ว ซึ่งเป็นจุดที่เกิดริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์
-
ปรับรูปหน้า : ใช้ในการลดกล้ามเนื้อกราม ช่วยทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น
-
ลดเหงื่อ : ฉีดโบท็อกเพื่อลดเหงื่อที่บริเวณรักแร้ ฝ่ามือ และฝ่าเท้า
-
รักษาอาการไมเกรน : ช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการไมเกรนในบางราย
-
แก้ปัญหากล้ามเนื้อกระตุกหรือกล้ามเนื้อเกร็ง : ใช้รักษาอาการกล้ามเนื้อกระตุกที่ใบหน้าและรอบดวงตา
เปรียบโบท็อกแต่ละยี่ห้อ
Allergan
โบท็อกซ์ Allergan สัญชาติอเมริกา แบรนด์แรกคิดค้นสารโบทูลินั่มลดริ้วรอยที่ได้รับ อย. FDA ซึ่งผลิตโดยบริษัท (Allergan) ประเทศอเมริกา ยาวนานกว่า 30 ปี และยังมีอีกหลายผลิตภัณฑ์ชื่อดัง อย่าง ฟิลเลอร์ Juvederm
จุดเด่นของ Allergan Botox ถูกสกัดมาจากแบคทีเรียคลอสตริเดียมโบทูลินัม (Clostridium Botulinum) สกัดมาเป็นสารที่อยู่ในรูปโปรตีนที่มีคุณสมบัติพิเศษคือตัวยามีความบริสุทธิ์สุงสุดถึง 99.5% ทำให้โอกาสการดื้อยาน้อย และการออกฤทธิ์กระจายตัวแคบ ทำให้มีความแม่นยำในการรักษาเฉพาะกล้ามเนื้อ ซึ่งจะออกฤทธิ์เต็มที่ประมาณ 1 เดือน และอยู่ได้นาน 6-8 เดือน
Xeomin
โบท็อกซ์ Xeomin สัญชาติเยอรมณี ถูกพัฒนามาจากรุ่น Allergan และ Dysport นำเข้าโดย Merz Aesthetic
จุดเด่นของ Xeomin botox ใช้นวัตกรรมจาก XTRACT Technology™ เพิ่มความบริสุทธิ์ ด้วยการกำจัดคอมเพล็กซิ่งโปรตีน และสิ่งแปลกปลอม เหลือเพียงสารออกฤทธิ์ Core Neurotoxin เท่านั้น โอกาสดื้อยาน้อยกว่ารุ่นอื่น ๆ การกระจายตัวที่พอเหมาะ แม่นยำ และปลอดภัยสูง ไม่ทำให้หน้าตึง หน้าแข็ง ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 3-6 เดือน
โบท็อกซ์ Nabota
โบท็อกซ์ Nabota สัญชาติเกาหลี เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมและคลินิกชั้นนำเลือกใช้ ด้วยราคาย่อมเยาเข้าถึงง่าย ถูกคิดค้นและพัฒนาตัวยานานกว่า 30 ปี ผลิตโดยบริษัท Hugel Inc.
จุดเด่นของ Nabota Botox ผลิตด้วยเทคโนโลยี HI-PURE Technology ซึ่งตัวยามีความบริสุทธิ์สูงสุดถึง 98.7% ทำให้โอกาสดื้อยาน้อยและมีความปลอดภัยสูง เห็นผลลัพธ์ไว เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆ ให้ผลลัพธ์ยาวนาน 3-4 เดือน
โบท็อกซ์ Aestox
โบท็อกซ์ Aestox สัญชาติเกาหลี อีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเช่นเดียวกับ Nabota และเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดีๆ สำหรับคนที่มีงบจำกัด นำเข้าโดยบริษัท Aestec Pharma
จุดเด่นของ Aestox Botox อีกหนึ่งโบท็อกคุณภาพพรีเมียมใกล้เคียง Allergan Botox ซึ่งตัวยามีความบริสุทธิ์สูงถึง 99.5% ทำให้โอกาสการดื้อยาน้อย ออกฤทธิ์ไวและการกระจายตัวแคบเฉพาะจุด ผลลัพธ์หลังทำเป็นธรรมชาติ หน้าไม่ตึง ยิ้มไม่แข็ง เห็นผลลัพธ์ยาวนาน 3-4 เดือน
โบท็อกแต่ละจุดใช้กี่ U
ปริมาณโบท็อกที่ใช้ (หน่วย U หรือ Unit) ในการฉีดแต่ละจุดขึ้นอยู่กับขนาดของกล้ามเนื้อและผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ปริมาณที่ใช้ทั่วไปสำหรับแต่ละจุดมีดังนี้
-
หน้าผาก : ประมาณ 10-20 U
-
หว่างคิ้ว : ประมาณ 10-25 U
-
รอบดวงตา : ประมาณ 6-12 U ต่อข้าง (รวมทั้งสองข้าง 12-24 U)
-
หางตา: ประมาณ 6-12 U ต่อข้าง
-
ลดกราม : ประมาณ 40-60 U ต่อข้าง (รวมทั้งสองข้าง 80-120 U)
-
ยกมุมปาก : ประมาณ 2-6 U ต่อข้าง
-
คาง : ประมาณ 4-10 U
-
ลดเหงื่อบริเวณรักแร้ : ประมาณ 50-100 U ต่อข้าง
รีวิวผลลัพธ์โบท็อก